ปกติการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคภูมิแพ้จำเป็นต้องตรวจดูว่าผู้ป่วยสร้างภูมิคุ้มกันเฉพาะ (specific IgE) ต่อสารก่อภูมิแพ้ที่สงสัยหรือไม่ซึ่งอาจทำได้โดยการตรวจเลือดได้แก่ การตรวจ RAST (Radioallergosorbent test) หรือ การตรวจในผู้ป่วยโดยตรงได้แก่ การการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (skin test) โดยทั่วไปแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางภูมิแพ้มักทำการตรวจ skin test เพราะทำได้ง่าย รวดเร็ว และสิ้นเปลืองน้อยอีกทั้งยังมีความไวและความจำเพาะสูง
ข้อบ่งชี้ในการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง
วิธีการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังแบบสะกิด (skin prick test)
ก่อนทำการตรวจ ผู้รับการตรวจจะได้รับคำแนะนำให้หยุดยาแก้แพ้ยา แก้หวัด และยาอื่นๆ ที่อาจมีผลทำให้ผลการตรวจผิดพลาดเป็นเวลาอย่างน้อย 3-7 วัน การตรวจทำได้โดยการหยดสารสกัดจากสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ (extract) ลงบนผิวหนังและใช้เข็มสะกิดผิวหนังผ่านหยดสารสกัดโดยสะกิดเบาๆ ให้เข็มทำมุมประมาณ 60-70 องศากับผิวหนัง สะกิดลงไปถึงชั้น epidermis เท่านั้น ไม่ควรมีเลือดออกทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที จะเช็ดน้ำยาสารสกัดออกหรือไม่ ก็ได้อ่านผลโดยวัดขนาดของรอยบวม (wheal) หรือร่วมกับรอยแดง (flare) ที่เกิดขึ้น
วิธีนี้เป็นวิธีที่แนะนำเป็นวีธีแรกในการตรวจวินิจฉัยโรคภูมิแพ้โดยทั่วไปเนื่องจากเป็นวิธีที่ปลอดภัย โอกาสเกิด systemic reaction น้อยมากนอกจากนี้ยังทำได้ง่ายใช้เวลาน้อย
รูปแสดงผลการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง
หยดสารก่อภูมิแพ้ลงบนผิวหนัง
ปฏิกิริยาที่ให้ผลบวกจะเป็นรอยนูนแดงขึ้นมา (wheal) และมีรอยแดงล้อมรอบ (flare)
ดี เอ คลินิก เป็นคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง ด้านผิวหนัง เลเซอร์ความงาม (Dermatology and Cosmetic Laser Surgery) และด้านโรคภูมิแพ้, วิทยาภูมิคุ้มกันคลินิก (Allergy and Immunology Clinic) ตรวจรักษาโดยแพทย์เฉพาะทาง
รับสมัครพนักงานประจำคลินิก วุฒิ ม.6,ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ถ้ามีประสบการณ์จะพิจารณาเป็นพิเศษ รายได้ดี มีประกันสังคม
We have 23 guests and no members online